luca เต็มเรื่อง

luca เต็มเรื่อง แอนิเมชั่นใหม่ของพิกซาร์ ชายฝั่งอิตาลีกับสัตว์ประหลาดใต้ท้องทะเล

luca เต็มเรื่อง ในยุคที่ไม่ต้องเรียนออนไลน์หรือติดแหง็กอยู่กับบ้านตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อเลยว่าปิดเทอมฤดูร้อนคือช่วงโปรดของใครหลายคน เกือบ 2 เดือนที่เราได้เที่ยวเตร็ดเตร่ พบเพื่อนใหม่ มีความรัก ไปจนถึงการทำกิจกรรมน่าสนใจที่พาเราสำรวจตัวเองจนทำให้รู้ว่าความฝันของเราคืออะไร กับคนที่หลงลืมช่วงเวลานั้นไปเพราะผ่านวัยเด็กมานานโข การดู Luca ได้พาความทรงจำในตอนนั้นกลับมา แม้แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ Pixar เรื่องนี้จะมีฉากหลังเป็นเมืองเล็กๆ ติดชายทะเลในอิตาลีซึ่งแตกต่างจากบ้านเราสุดๆ และตัวละคร Luca จะเป็นปีศาจทะเลที่แปลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาใช้ชีวิตบนบก แต่หัวใจสำคัญคือเรื่องของมิตรภาพ ความฝัน และการเติบโตของเด็กๆ ผู้รู้สึกแปลกแยกและแตกต่าง

 

luca เต็มเรื่อง

 

ฝันที่ลูก้าเคยฝัน

เรื่องเล่าถึงชีวิตของลูก้า ปีศาจทะเลตัวน้อยที่วันๆ ใช้ชีวิตอยู่กับการเป็นเด็กคุมฝูงปลา (อารมณ์เด็กเลี้ยงแกะ) เขาอาศัยอยู่ในครอบครัวที่เคร่งครัดและกำชับเขาอยู่เสมอว่า “อย่าไปยุ่งกับพวกปีศาจบก!” แต่ลึกๆ ในใจของลูก้าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และใฝ่ฝันว่าสักวันจะโผล่ขึ้นไปเหนือผิวน้ำเพื่อดูว่ามนุษย์ใช้ชีวิตกันยังไง

กระทั่งวันหนึ่ง ลูก้าเจอ Alberto ปีศาจทะเลอีกตัวที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน ผู้ดึงลูก้าขึ้นจากน้ำและพาเที่ยวบนเกาะของเขา ปีศาจน้อยพบความจริงที่น่าตกใจว่าเมื่อขึ้นมาอยู่บนบก เขาจะกลายร่างเป็นมนุษย์ที่ดูจากภายนอกก็เหมือนคนทั่วไป ลูก้ารู้สึกเป็นอิสระแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

ฤดูร้อนนั้นพวกเขาสองคนใช้เวลาร่วมกัน จากการเที่ยวเล่นในเกาะเล็กๆ ก็มีเหตุให้ต้องไปผจญภัยในเมืองที่ชาวบ้านเกลียดกลัวปีศาจทะเลเข้าไส้ (ถึงขนาดออกประกาศว่าใครจับได้จะมีรางวัลให้) ที่นั่นพวกเขาได้พบกับ Giulia เด็กหญิงผู้มีสถานะทางสังคมเป็น ‘ไก่รองบ่อน’ ไม่ต่างจากสองหนุ่ม ทั้งสามรวมกลุ่มกันพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอีรุงตุงนังที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

 

luca เต็มเรื่อง

 

เพื่อนคนสำคัญ

ถ้าดูจากพล็อต ลูก้าก็แทบไม่ต่างอะไรจากเงือกน้อย Ariel ใน The Little Mermaid ผู้อาศัยอยู่ใต้ทะเลและอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกมนุษย์ (พวกเขามีครอบครัวที่เกลียดกลัวมนุษย์เหมือนกัน ชอบสะสมของมนุษย์เหมือนกัน นี่ถ้าลูก้าร้องเพลงที่เพ้อหาชีวิตบนดินอีกนิดก็ใช่เลย) แม้จะมีกลิ่นความเควียร์แบบ Call Me By Your Name โชยมาแต่ไกล และบริบทหลายอย่างก็สื่อให้คิดทางนั้นได้ แถมยังฉายในช่วง pride month แต่ Enrico Casarosa ผู้กำกับก็ยืนยันหนักแน่นว่ามันไม่ใช่หนังรัก (กับหลายสื่อมากๆ จนเราแอบคิดไม่ได้ว่า หื้ม หล่อนมีพิรุธอีกแล้วนะ) สิ่งที่ทำให้แอนิเมชั่นเรื่องนี้ต่างจาก The Little Mermaid คือมันพูดเรื่องมิตรภาพของเด็กวัยก่อนแตกเนื้อหนุ่ม ซึ่งเอนริโก้ได้แรงบันดาลใจมาจากวัยเด็กของเขาเอง

“ผมเกิดในเมือง Genoa ช่วงฤดูร้อนของผมจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับชายหาด” ผู้กำกับหนุ่มผู้เคยมีผลงานแอนิเมชั่นขนาดสั้นกับ Pixar เรื่อง La Luna บอกกับสื่อ Empire “ผมเจอเพื่อนสนิทของผมตอนอายุ 11 ตอนนั้นผมเป็นคนขี้อายมาก และผมก็ได้สนิทกับเด็กเกเรคนหนึ่งที่มีชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะงั้นผมจึงอยากทำหนังเกี่ยวกับมิตรภาพเหล่านี้ที่ช่วยให้คุณเติบโตขึ้น”

 

luca เต็มเรื่อง

 

เช่นเดียวกับ Coco ที่พาเราไปเห็นบ้านเมืองของคนเม็กซิกัน หรือ Soul ที่สำรวจชีวิตนักดนตรีแจ๊สผิวดำในนิวยอร์ก Luca ก็เต็มไปด้วยฉากหลังแบบอิตาลี้ อิตาลี ที่เอนริโก้คัดสรรมาไว้ในเรื่อง อาทิเมือง Portorosso ในเรื่องก็ดูคล้าย Italian Riviera เมืองติดทะเลอันโด่งดัง นอกจากนี้ผู้กำกับหนุ่มยังได้แรงบันดาลใจจาก Stand by Me หนังว่าด้วยการเติบโตของเด็กๆ ในใจใครหลายคน รวมทั้งผลงานของผู้กำกับแอนิเมชั่นชื่อดังจากฝั่งเอเชียอย่าง Hayao Miyazaki (ผู้กำกับเรื่อง Spirited Away และ My Neighbor Totoro) ที่อาจเป็นแรงบันดาลใจของลายเส้นและสีสันแสนสดใส ซึ่งดูๆ ไปก็คล้ายการ์ตูนค่าย Ghibli อยู่ไม่น้อย

Call me by my name

ยังไงก็ตาม สิ่งที่กระทบใจเรามากที่สุดคือแอนิเมชั่นเรื่องนี้เล่าเรื่องของ outsider หรือเด็กนอกสายตาผู้เคยทนกับกฎเกณฑ์ ค่านิยม และสายตาของคนอื่นที่เกลียดกลัวพวกเขาเพียงเพราะพวกเขาแตกต่าง ‘ปีศาจทะเลไม่ควรขึ้นไปเหนือผิวน้ำ’, ‘ปีศาจทะเลไปโรงเรียนไม่ได้’, ‘โลกเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก ถ้าแม่ต้องส่งลูกไปก้นทะเลเพื่อให้ปลอดภัย แม่ก็จะทำ’

ซีนที่เห็นได้ชัดที่สุดคือซีนสำคัญของเรื่องที่ลูก้ากับอัลแบร์โต้ชนะการแข่งขัน Portorosso Cup ซึ่งระหว่างนั้นฝนตกทำให้ทั้งคู่ต้องเปิดเผยตัวตนกับทุกคนในเมือง แทนที่คนจะดีใจด้วย พวกเขากลับตัดสินว่าทั้งคู่ควรถูกกำจัดเพราะเป็นปีศาจทะเล

“พวกเรากลัวแก ทุกคนทั้งกลัวและขยะแขยงพวกแก เพราะแกมันเป็นปีศาจ” Ercole ตัวร้ายของเรื่องประกาศกร้าว “พวกมันเป็นผู้ชนะไม่ได้ พวกมันไม่ใช่มนุษย์”

คิดเล่นๆ ให้เอาคำว่า ‘LGBTQ+’, ‘ผู้อพยพ’ หรือ ‘คนดำ’ ไปแทนคำว่าปีศาจ แล้วเอาคำว่า ‘ชายหญิงที่เพศสภาพตรงกับเพศกำเนิด’ หรือ ‘คนผิวขาว’ ไปแทนคำว่ามนุษย์ สถานการณ์ของลูก้ากับอัลแบร์โต้ก็ดูไม่แตกต่างจากสถานการณ์ในอดีต (หรือปัจจุบัน) ที่กลุ่มคนชายขอบหลายคนต้องเจอ

ทุกวันนี้คนดำยังคงโดนเหยียดเพียงเพราะพวกเขาผิวดำ การเป็น LGBTQ+ ยังผิดกฎหมายและโดนจับฆ่าได้อย่างง่ายดายในหลายประเทศ หรือไม่ต้องเป็นคนชายขอบก็ได้ แต่ถ้าคุณมีบางอย่างผิดแผกไปจากค่านิยมของคนในสังคม หรืออยู่ตรงข้ามกับขั้วอำนาจที่ฝังรากลึกมานาน ถ้าไม่ได้เป็นผู้ชาย ไม่ได้เป็นคนขาว ไม่ได้สวยหรือหล่อตามบิวตี้สแตนดาร์ด จะเกมไหนๆ คุณก็เป็นผู้ชนะไม่ได้หรอก

 

ลูกา

 

แต่ลูก้าส่ายหัวบอกเราว่า โนจ้ะ ที่รัก เรื่องแบบนี้ควรจะหมดไปได้แล้ว ตัวละครพ่อของจูเลียผู้เคยเป็นโต้โผในการล่าปีศาจทะเลจึงก้าวออกมาปกป้องสิ่งที่ตัวเองเคยล่า เพราะจากการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันระยะหนึ่ง เขามองเห็นว่าภายใต้ผิวหนังน่าเกลียดน่ากลัวของปีศาจทะเลทั้งสองตัวมีหัวใจที่รักเพื่อน ซื่อสัตย์ และเป็นหัวใจที่เต้นในจังหวะเดียวกันกับมนุษย์ทุกคน

สรุป luca เต็มเรื่อง

“ฉันรู้ว่าพวกเขาคือใคร” พ่อจูเลียบอก “พวกเขาคือลูก้ากับอัลแบร์โต้ และพวกเขาคือผู้ชนะ” ฟังเผินๆ เหมือนจะเป็นประโยคเรียกชื่อธรรมดา แต่มองลึกลงไป มันคือการให้ความสำคัญกับตัวตนจริงๆ ของคนคนนั้นโดยไม่สนว่าเขาจะมาจากไหนหรือผิวสีอะไร คุณเป็นปีศาจทะเลและคุณสามารถใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะมีคนเข้าใจหรือไม่เข้าใจสิ่งที่คุณเป็นก็ตาม

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Share
สล็อต
heng99 หน้าแรก หน้าแรก heng99 บอลสด บอลสด heng99 เล่นเกม heng99 โปรโมชั่น โปรโมชั่น heng99 สมัครสมาชิก สมัครสมาชิก